Google Lighthouse คืออะไร เครื่องมือฟรี คนทำ SEO ไม่ควรพลาด

Google Lighthouse คืออะไร

Google Lighthouse คือ เครื่องมือ ที่ใช้วิเคราะห์คุณภาพ ของเว็บไซต์ หรือเรียกว่า เป็นเครื่องมือ ที่ใช้ในการ วิเคราะห์ประสิทธิภาพข อง SEO ในเชิงของ เทคนิคก็ได้ เช่นเดียวกัน และเมื่อ Google Lighthouse วิเคราะห์เว็บไซต์ ของเรากันได้แล้ว ก็จะทำการ แสดงผลออกมาเป็น คะแนน 0 - 100 ซึ่ง 100 ก็คือ คะแนนที่สูงที่สุด อีกทั้งยังแจ้ง ข้อบกพร่อง และรายละเอียด ต่าง ๆ ที่เราควรจะ นำไปปรับปรุงให้ดี อีกด้วย

จุดเด่นของ Google Lighthouse ที่ใช้ตรวจสอบคุณภาพ ของเว็บไซต์ มีอะไรบ้าง

เพราะว่า Google ได้ให้ความสำคัญ กับประสบการณ์ ของผู้ใช้งาน และเว็บไซต์ ที่มีประสิทธิภาพของหน้า Search Engine ของตัวเอง และ Google Lighthouse จึงได้ออกฟังก์ชัน ตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ ที่มีจุดเด่น ด้วยกันดังนี้

1. Performance

ซึ่งปัจจัยแรกที่ Google Lighthouse ได้ใช้ตรวจวัดคุณภาพเว็บไซต์ ก็คือ Performance ซึ่งจะวัดออกมา ในรูปแบบของความเร็ว ที่มาจากการแสดงผล ถ้าหากเว็บไซต์ ออกแบบได้มีคุณภาพ ก็จะใช้เวลา ในการดาวน์โหลด ที่น้อยลง จนสามารถสร้างประสบการณ์ ที่ดีให้กับผู้ใช้งานได้ แต่ถ้าหากเว็บไซต์ดาวน์โหลดช้า จนเกินไป ก็อาจจะทำให้ผู้ใช้งานกดปิด และไม่เปิดเว็บไซต์ ของเราเข้ามาอีก ดังนั้นจึงส่งผลให้ เกิดอัตรา Bounce Rate ที่สูงขึ้น จนทำให้ให้ประสิทธิภาพของ SEO ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น

2. Accessibility

Google Lighthouse ที่มีฟังก์ชัน Accessibility เพื่อใช้ในการ ประเมินคุณภาพการเข้าถึง หน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ซึ่งคะแนนประเมินคุณภาพ ก็จะมีตั้งแต่ 0 – 100 โดยจะประเมินจาก องค์ประกอบ และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ได้ใส่ลงไป ในหน้าเว็บไซต์ อย่างเช่น ปุ่ม Call-To-Action, ลิงก์, หรือ Alt Text, เป็นต้น เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่า การแสดงผล และการใช้งาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นสามารถ รองรับได้ดีหรือไม่ เพื่อที่จะช่วย สร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับผู้ใช้ได้

3. Best Practices

ฟังก์ชัน Best Practices คือ ตัวชี้วัด ที่ใช้ประเมินได้ว่า เว็บไซต์ ( Website ) ที่เราตรวจสอบนั้น ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ หรือไม่ ถ้าหากเว็บไซต์ ได้รับการเขียนขึ้นมา ได้ถูกต้องตามหลัก และมีความปลอดภัย ต่อผู้ใช้งาน Google Lighthouse ก็จะให้คะแนนในส่วนนี้ ที่เป็นเกณฑ์ระดับสูง เพราะว่า Best Practices นั้นจะสามารถตรวจสอบได้ อย่างเช่น เอกสารประเภท HTML ของหน้าเพจ, แหล่งที่มาของหน้าเพจ, ความปลอดภัยของคลังเก็บ JavaScript, หรือ Framework และ API ที่ได้เลิกใช้แล้ว ของหน้าเพจ เป็นต้น

4. SEO

ฟังก์ชัน SEO ที่ใช้เพื่อประเมิน ประสิทธิภาพของ SEO โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถตรวจสอบ ได้ทั้ง On-Page SEO ไม่ว่าจะเป็น Title, Meta Description, โครงสร้างเนื้อหา, Heading Tag, และ Alt Text ยังรวมไปถึง การรองรับการใช้งาน ผ่านมือถือ ซึ่งจะประเมินออกมา เป็นคะแนนตั้งแต่ 0 – 100 ถึงแม้ว่า ฟังก์ชันนี้ จะสามารถ ตรวจสอบประสิทธิภาพ SEO โดยรวมได้

5. Progressive Web App หรือ PWA 

PWA คือ การพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถใช้งาน ได้อย่างง่าย และสร้างประโยชน์ ได้คล้ายคลึงกับ แอปพลิเคชัน ซึ่งฟังก์ชัน Progressive Web App ( PWA ) ของ Google Lighthouse นั้นจะช่วยประเมินเว็บไซต์ ในส่วนของ ความสวยงาม, ความเร็ว, รูปแบบการใช้งาน, และ องค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีผลต่อ ความเสถียร เพื่อที่จะให้เว็บไซต์ สามารถแสดงผลได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สูงสุด

ขั้นตอน การติดตั้ง Google Lighthouse

Google Lighthouse ซึ่งเป็น Extensions ของ Google Chrome ฉะนั้นเราขอแนะนำให้ทำ การติดตั้ง Google Lighthouse ใน Chrome กันก่อน และจากนั้น สามารถทำตาม ขั้นตอน ดังนี้ได้เลย

1. ทำการติดตั้ง Google Lighthouse บน Google Chrome โดยให้คลิกติดตั้งที่นี่
2. และเมื่อติดตั้งเสร็จสิ้น ให้คลิกไอคอน Lighthouse ทางด้านขวาบน ของ Chrome ในแถบส่วนขยาย
3. เมื่อหน้าต่างของ Google Lighthouse แสดงขึ้นมา ให้ทำการ กรอกเว็บไซต์ ที่เราต้องการ ตรวจสอบลงไป
4. แล้วคลิก “Generate Report” จากนั้นก็รอให้ Google Lighthouse วิเคราะห์ข้อมูล และแสดงผล การตรวจสอบเว็บไซต์
5. หากเมื่อเราได้ผลลัพธ์ การตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ ก็จะสามารถนำไป ปรับปรุง หรือต่อยอดประสิทธิภาพ SEO ตามที่เราต้องการได้เลย

วิธีทำให้เว็บไซต์ได้ คะแนนสูง

ถ้าหากเรานำเว็บไซต์ มาตรวจสอบ Google Lighthouse ก็จะประเมินให้ว่า เว็บไซต์ ( Website ) ของเรา มีอะไรที่ไม่ผ่านเกณฑ์บ้าง พร้อมกับแจกแจงสาเหตุ และนอกจากนี้ Google Lighthouse ก็จะมีการให้คะแนน ในแต่ละหัวข้อ อย่างชัดเจน คนทำ SEO ก็จะสามารถ นำข้อบกพร่องตรงนี้ มาทำการปรับปรุง ตามคำแนะนำของ Lighthouse และเพียงเท่านี้ คะแนนของเว็บไซต์ของเรา ก็จะเพิ่มสูงขึ้นกัน

สรุปบทความ

การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ และการใช้ เครื่องมือ Google Lighthouse ที่มาเป็นตัวช่วย ตรวจสอบคุณภาพ ถือเป็นสิ่งสำคัญ อีกอย่างหนึ่งที่ ไม่ควรพลาด และมองข้าม เพราะสามารถ ระบุวิธีแก้ไขปัญหา ที่จะทำให้เว็บไซต์ของเรา เจอการทำงานที่ถูกต้อง และเหมาะสมเพิ่มเติม อีกด้วย ฉะนั้นหากใครมีข้อสงสัย หรืออยากจะ ปรับปรุงเว็บไซต์ SEO ก็สามารถเข้ามาสอบถามกับทาง Eden Agency ที่มีผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาได้เลยค่ะ