EDEN Agency รับทำ Seo ecommerce เพิ่มยอดขาย สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้า (website company) เว็บไซต์ธุรกิจออนไลน์ ซึ่งทางทีมงานเราให้ความสำคัญกับการจัดโครงสร้าง ecommerce Audit checklist 2023 ที่พร้อมตอบโจทย์ google เพื่อให้อันดับเว็บไซต์ของคุณ ขึ้นอันดับต้นๆ ในการค้นหาบน Google หากสนใจสามารถทักมาสอบถามราคาและปรึกษากับเราได้เราฟรี
บริการรับทำ SEO สำหรับ E-Commerce เหมาะกับธุรกิจกลุ่มที่ ต้องการเพิ่มการ เข้าชมและยอดขายของร้านค้าออนไลน์ การทำ SEO เป็นกระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์ เพื่อให้ปรากฏในผลการค้นหาของ เครื่องมือค้นหา เช่น Google หรือ Bing เพื่อเพิ่ม โอกาสในการเข้าชม และทำการซื้อสินค้า
การทำ E-commerce SEO (Search Engine Optimization) เป็น กระบวนการที่สำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการเพิ่มการแสดงผล ในผลการค้นหาของเว็บไซต์ในตัวจังหวัดหรือสูงสุดในผลการค้นหาทั่ว ๆ ไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้น
เพิ่มการแสดงผลในผลการค้นหา: การทำ E-commerce SEO ช่วยให้ เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาของโปรแกรมการค้นหา เมื่อเว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหา, มีโอกาสที่ลูกค้าจะค้นหา และเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น.
เพิ่มการมองเห็นและการคลิก: การอยู่ในส่วนบนของผลการค้นหาช่วย ให้เว็บไซต์ของคุณมีการมองเห็นมากขึ้น ลูกค้ามักจะคลิกเข้ามาใน เว็บไซต์ที่ปรากฏในตำแหน่งแรกหรือสูงสุด.
เพิ่มการแสดงผลในรายการค้นหา: สำหรับธุรกิจที่มีสาขาทั่วประเทศ หรือในพื้นที่ที่แน่นอน, การติดอันดับสูงในผลการค้นหาท้องถิ่นช่วยให้ ลูกค้าท้องถิ่นค้นหาและค้นพบธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น.
เพิ่มการมองเห็นในสังคมออนไลน์: เว็บไซต์ที่มีการแสดงผลในผลการ ค้นหามักถูกแชร์บ่อยๆ ในสังคมออนไลน์, ทำให้มีโอกาสในการเพิ่มความ น่าสนใจและการพูดถึงจากลูกค้า.
ลดต้นทุนโฆษณา: การทำ E-commerce SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณ ปรากฏในผลการค้นหาโดยไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา นี้สามารถช่วยลด ต้นทุนโฆษณาในระยะยาว
E-commerce SEO (Search Engine Optimization) คือ กระบวน การทำให้เว็บไซต์ของธุรกิจ E-commerce ปรากฏในผลการค้นหา ของโปรแกรมการค้นหา เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าผ่าน ทางการค้นหาออนไลน์ คำว่า "SEO" หมายถึงการปรับแต่งและ ปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้เข้าข่ายกับอัลกอริทึมการค้นหาของโปรแกรมต่างๆ เพื่อเพิ่มการแสดงผลในผลการค้นหา.
นักการตลาดที่ทำ E-commerce SEO จะใช้วิธีต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาส ในการปรากฏในผลการค้นหาของโปรแกรมต่างๆ เช่น Google, Bing, หรือ Yahoo. นักการตลาดเหล่านี้จะปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ เกณฑ์ของอัลกอริทึมการค้นหาที่ถูกกำหนดโดยเครื่องมือการค้นหา
Keyword Optimization (การปรับแต่งคำสำคัญ): การใช้คำสำคัญ หรือ คีย์เวิร์ดที่ใช้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่เว็บไซต์ของคุณ มีให้มีโอกาสที่จะปรากฏในผลการค้นหาเมื่อลูกค้าค้นหาและจัดทำแผนคีย์เวิร์ดที่จะใช้ เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าจากทุกระดับ
Web Structure (โครงสร้างเว็บไซต์): ขั้นตอนนี้ ก็ถือว่าสําคัญเช่นกัน การวาง Web Structure สามารถช่วยทําให้ Google รู้ว่า เว็บเราเป็น เว็บประเภทไหน เกี่ยวข้องกับกลุ่มคําไหน และ ทําให้ผู้ใช้งาน เข้าเว็บได้ อย่างไหลลื่น ไม่ลึกมากจนเกินไป ทําให้หาสินค้าเจอ ได้ง่าย อีกทั้งยังมี โอกาสปิดยอดได้เพิ่มขึ้นอีก
On-Page / Off- Page Optimization (การปรับแต่งหน้าเว็บ): การปรับปรุงโครงสร้างหน้าเว็บ, เนื้อหา, และภาพ เพื่อทำให้เข้าข่ายกับ อัลกอริทึมการค้นหา.
Link Building (การสร้างลิงก์): การสร้างการเชื่อมโยงที่มีคุณค่า จากเว็บไซต์อื่น, ซึ่งสามารถเพิ่มความเสถียรของเว็บไซต์ในสายการ ค้นหา.
User Experience Optimization (การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้): การทำให้เว็บไซต์ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้ผู้ใช้มี ประสบการณ์ที่ดี.
Mobile Optimization (การปรับแต่งสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่): การปรับแต่งเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต