ติดอันดับ SEO ด้วยการทำ Content Gap ที่ไม่ควรพลาด

Content Gap คืออะไร ?

Content Gap หรือที่หลาย ๆ คน รู้จักกันในชื่อของ Content Gap Analysis ก็คือ กลยุทธ์การหาช่องโหว่ ในการทำ คอนเทนต์บนเว็บไซต์ โดยเป็นการเปรียบเทียบแบรนด์ ของเรากับคู่แข่ง ในธุรกิจเดียวกัน ว่ามีลักษณะของ หัวข้อบล็อก คอนเทนต์ หรือ คีย์เวิร์ด ใดบ้าง ที่คู่แข่ง หรือว่า เพื่อนร่วมธุรกิจในธุรกิจเดียวกัน เขาทำแล้วแต่เรายังไม่ได้ทำ หรือพูดง่าย ๆ นั้นก็คือ เป็นการวิเคราะห์ และตรวจสอบคอนเทนต์ ของบริษัทเรา กับคู่แข่งว่า มีข้อดี หรือข้อเสียอย่างไร ? และมีช่องโหว่ใด ที่ธุรกิจของเรายังไม่ได้ทำบ้าง ก็จะได้เติมเต็มเนื้อหา ในส่วนนั้น ๆ ให้สมบูรณ์ และส่งผลให้ คอนเทนต์ หรือ แผนการตลาด ของเรานั้นโดดเด่น และตอบโจทย์ลูกค้า ได้ดีและมากกว่าคู่แข่งอีกด้วย

สำหรับการทำ Content Gap ก็ยังถือเป็น กลยุทธ์ที่สำคัญ อย่างหนึ่งของ การทำ SEO เพราะว่า ที่นอกจากจะทำให้ Website ของเราได้ตอบโจทย์ในทุกการค้นหา ให้กับลูกค้า ที่สนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแล้วนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้กับ Website ของเรา ติดอันดับ SEO ของการค้นหา ในหน้า Search Engine อย่าง Google ได้ดีมากยิ่งขึ้น

Content Gap ส่งผลดีอย่างไร ? ต่อการทำ SEO

Content Gap ก็คือ ตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้การทำ SEO นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะว่าสิ่งนี้คือกลยุทธ์ ที่จะทำให้แบรนด์ได้รู้เท่าทันคู่แข่ง ในตลาดเดียวกัน รวมไปถึงว่า พวกเขาวางแผนธุรกิจ ไปในทิศทางใดและ SEO ของเขาเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งข้อดีหลัก ๆ ของกลยุทธ์นี้ ที่จะส่งผลต่อการทำ SEO มีดังนี้

1. การใช้ Keyword ในคอนเทนต์ ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

เราเชื่อว่าทุกคน ก็คงทราบกันดีว่า ถ้าหาก Keyword ดี การทำ SEO ก็จะมีชัยไปกว่าครึ่ง อย่างแน่นอน ฉะนั้นนอกจาก นักการตลาดจะต้องทำคีย์เวิร์ด ได้อย่างดีแล้ว เพื่อให้รู้ว่า ควรใช้คีย์เวิร์ดตัวไหน ในการทำ SEO บ้าง ก็จะต้องไม่ลืมที่จะทำ Content Gap Analysis เพื่อที่จะเทียบคีย์เวิร์ด ของคู่แข่งอีกด้วย เราก็จะได้นำมาปรับใช้กับ การทำคอนเทนต์ หรือเว็บไซต์ของเรา เพื่อที่จะให้กลุ่มเป้าหมาย นั้นสามารถที่จะ ค้นหาเว็บไซต์ของเรา ได้มากที่สุดนั่นเอง

2. การพัฒนาเนื้อหาคอนเทนต์ ให้ดีขึ้น

สำหรับการทำ Content Gap จะช่วยพัฒนาคอนเทนต์ SEO ของเรา ให้มีคุณภาพขึ้นได้ เนื่องจากว่า การทำ SEO เป็นการปรับปรุง ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของเรา ติดอันดับ เหนือกับคู่แข่ง โดยการวิเคราะห์ช่องโหว่ของ Content Gap ก็จะช่วยให้เรา ได้เห็นว่า เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ ของคู่แข่ง เว็บไซต์ หรือ คอนเทนต์ Content ของเรา มีข้อบกพร่อง ตรงไหนบ้าง และควรจะเพิ่ม หรือ ลดคีย์เวิร์ดใด รวมไปถึง ความเร็วของ เว็บไซต์ Website เพียงพอต่อ การเพิ่มประสบการณ์ ให้กับผู้ใช้งาน ได้มากขึ้นหรือไม่ ? เพื่อที่จะได้ พัฒนาคอนเทนต์ ของเราให้มีคุณภาพ ที่เพียงพอ ในสายตาของ Search Engine ของ Google ได้มากที่สุด

3. การสื่อสาร ได้อย่างตรงใจกับ กลุ่มเป้าหมาย

ซึ่งการทำ Content Gap จะช่วยให้เราสื่อสาร Content ได้อย่างตรง กับความสนใจของ กลุ่มเป้าหมาย ได้มากกว่าเดิม เพราะว่าการที่เรา วิเคราะห์คอนเทนต์ ของคู่แข่ง ในธุรกิจเดียวกัน และมีลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ก็จะทำให้เห็นภาพชัดที่เจนว่า คู่แข่งได้สื่อสาร ถึงเรื่องอะไร ให้กับลูกค้าไปแล้วบ้าง และอะไรที่เขาทำไปแล้ว และได้รับความสนใจ เราก็จะได้นำมาปรับใช้ หรือว่า อะไรที่ลูกค้าไม่สนใจ เราก็จะได้ไม่ทำตาม เพื่อเป็นการ อุดช่องโหว่ และเติมเต็ม สิ่งที่ลูกค้าต้องการ ให้ได้

4. การตัดคู่แข่งธุรกิจเดียวกัน ได้ง่ายขึ้น

สำหรับการทำ Content Gap ที่นอกจากส่งผลให้เว็บไซต์ของเรา มีข้อมูลทุกอย่าง ที่ตอบโจทย์ลูกค้า มากกว่าคู่แข่งแล้ว และยังจะทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์ ของเรามีคุณภาพ และพร้อมที่จะดัน ให้อยู่ในอันดับสูงขึ้น ในหน้าของ Search Engine ด้วยเหตุนี้เอง ที่จะช่วยเปิดโอกาส ให้กับลูกค้าได้เจอ Website ของเราได้ มากกว่าคู่แข่ง จึงทำให้มีโอกาส เพิ่ม Traffic และปิดยอดขาย ได้มากยิ่งขึ้น

วิธีการทำ Content Gap ที่น่าสนใจ ?

หากถามถึงวิธีการทำ Content Gap จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้นี้

1. การทำด้วยตนเอง

สำหรับการทำ Content Gap วิธีแรก ก็คือ การที่นักการตลาด ลงมือวิเคราะห์ ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ใช้เครื่องมือช่วย ซึ่งวิธีนี้ จะคล้ายกับ การทำ Market Research หรือ การศึกษาตลาด ก่อนทำธุรกิจ ซึ่งนักการตลาด อาจจะเริ่มจากง่าย ๆ ด้วยการทำตัว เหมือนเป็นลูกค้า เข้าไปใช้งานจริง ในเว็บไซต์ ของคู่แข่ง เพื่อที่จะดูว่า คู่แข่งของเรานั้นมี โครงสร้างเว็บไซต์อย่างไร เว็บไซต์ใช้งานยาก หรือง่ายแค่ไหน และมีจุดเด่น จุดด้อยตรงไหนบ้าง แล้วกลับมาลองวิเคราะห์ดูว่า มีปัจจัยอะไร ที่เป็นเหตุผล ที่ช่วยให้เว็บไซต์ ของเขา ติดหน้าแรกบน Google จนอยู่เหนือกว่า เว็บไซต์ของเรา อย่างเช่น

- เนื้อหาในเว็บไซต์ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ตอบโจทย์ความสนใจ

- เมนูการเข้าถึงหน้าต่าง ๆ ในเว็บไซต์ ที่ง่ายต่อการใช้งาน

- เว็บไซต์เสถียร และดาวน์โหลดเร็ว

- การวางเลย์เอาท์ที่สวยงาม ทั้งรูปแบบการเข้าดู ผ่านคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ

2. การใช้เครื่องมือช่วย

หากใคร ที่ไม่อยากวิเคราะห์คู่แข่ง ด้วยตนเอง ก็สามารถที่จะใช้เครื่องมือ Content Gap Analysis วิเคราะห์แทนได้ ซึ่งตอนนี้ได้มี เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ การทำ SEO ของคู่แข่ง ออกมาอย่างมากมาย อย่างเช่น Ahrefs, Semrush และ Google Keyword Planner ซึ่งการใช้เครื่องมือเหล่านี้  จะสามารถช่วยให้ นักการตลาดวิเคราะห์คอนเทนต์ ของคู่แข่งได้ ในแบบเชิงลึก และยังช่วยมอบข้อมูล Insight บางอย่าง ที่อาจไม่สามารถเห็นได้ จากการเข้าไปดูเอง จึงส่งผลให้นักการตลาด มีข้อมูลของคู่แข่ง ได้อย่างครบถ้วน จนนำมาปรับใช้ และพัฒนาคอนเทนต์ ของตัวเอง ให้ดูโดดเด่นมากขึ้นยิ่งได้

เครื่องมือ Content Gap ที่น่าสนใจ ?

1. เครื่องมือ Ahrefs

ถือเป็นเครื่องมือทำ Content Gap Analysis ที่คนทำ SEO นิยมใช้กัน มากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้ มีฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Content Gap โดยเฉพาะ โดยความน่าสนใจ ก็คือ เราสามารถใส่ URL ของเว็บไซต์คู่แข่ง ทั้งหมดลงไปได้ และฟีเจอร์ Content Gap ก็จะทำการวิเคราะห์ ให้เห็นได้ว่า มีคำ หรือคีย์เวิร์ดใดบ้าง ที่คู่แข่งติดหน้าแรก บน Google เพื่อที่เรา จะได้นำคำเหล่านั้นมาทำ Content เพื่อดันให้อันดับ Ranking เขยิบขึ้นสู่หน้าแรก หรือมีโอกาส ที่จะสามารถ แซงหน้าคู่แข่งได้เช่นกัน

2. เครื่องมือ Semrush

เครื่องมือทำ SEO ในแบบ All-in-one ที่มีฟีเจอร์ในการทำ Content Gap Analysis เช่นกัน ซึ่งฟีเจอร์ตัวนี้ จะมีชื่อว่า Competitive Research ที่ช่วยให้คนทำ SEO สามารถที่จะ วิเคราะห์ข้อมูลของคู่แข่ง ในเชิงลึกได้ ไม่ว่าจะเป็น Insight คอนเทนต์ของคู่แข่ง หรือภาพรวม SEO รวมไปถึงแคมเปญ PPC ที่จะทำให้ สามารถนำไป พัฒนาคอนเทนต์ รวมไปถึง นำไปปรับใช้กับ เว็บไซต์ของเรา เพื่อให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้นได้

3. เครื่องมือ Google Keyword Planner

เป็นเครื่องมือทำ Content Gap Analysis ที่ดีอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งเครื่องมือตัวนี้ จะเน้นไปที่การทำ Keyword Research โดยคนทำ SEO จะสามารถใช้ วิเคราะห์คีย์เวิร์ด กับการนำไปเทียบ กับของคู่แข่งได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็น การวิเคราะห์ที่ว่า Keyword นั้นมีจำนวนการค้นหา มากน้อยเท่าไร ในแต่ละเดือน หรือต้นทุนค่าคลิกเฉลี่ยมีเท่าไร มีคีย์เวิร์ดใดบ้าง ที่น่าสนใจ แต่เรายังไม่ได้ใช้ หรือแม้แต่ ช่วยให้เห็นภาพรวม ของคีย์เวิร์ด ที่น่าสนใจ  จึงทำให้ง่าย ต่อการนำมา ปรับปรุงคอนเทนต์ SEO ของเรา ให้ดีมากยิ่งขึ้น นั่นเอง

สรุปบทความ

เราจะเห็นได้ว่าการทำ Content Gap เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยให้การทำ Content ของเราตอบโจทย์ กับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกันก็ยังจะ ช่วยให้การทำ SEO ของเรา ประสบความสำเร็จ ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ฉะนั้นหากใครที่สนใจ ในการทำ Content Gap เพื่อเป็นตัวช่วย ในการทำ SEO ติดอับดับ ก็สามารถทักหา Eden Agency ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำ การตลาดออนไลน์ เรายินดีให้คำปรึกษากับทุกคน