หากคุณอยากจะสร้างแบรนด์ขึ้นมา เพื่อให้เป็นที่รู้จัก ยิ่งในโลกออนไลน์ ที่มีการแข่งขันสูงแบบนี้ แน่นอนว่าคุณต้องมีกลยุทธ์ที่ดี ในการวางแผนอย่างรอบคอบ วันนี้จะมาคุณมาดู แผนการตลาดออนไลน์ คืออะไร? พร้อมทั้งแนะนำขั้นตอนการวางแผน ที่ถูกต้อง โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญ ในการทำแผนการตลาดออนไลน์
ในยุคนี้ใคร ๆ ต่างก็อยากทำธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการกันทั้งนั้นเลยนะคะ ยิ่งโดยเฉพาะธุรกิจบนโลกออนไลน์ ที่มีขึ้นมามากมาย จนตัวเราเองก็เลือกซื้อกันไม่ถูกเลยทีเดียว บางแบรนด์ก็สร้างการเติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด จนเป็นที่รู้จักมากมาย สร้างยอดขายได้อย่างมหาศาล แต่บางแบรนด์ก็ได้ผลลัพธ์ที่ตรงข้ามกัน จนส่งผลให้แบรนด์ หรือธุรกิจนั้น ไม่สามารถเติบโตขึ้นมาได้ หรือจริง ๆ แล้ว อาจจะมีสาเหตุมาจากการที่ไม่มีเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน จึงส่งผลให้มองไม่เห็นเส้นทางที่มันควรจะเป็น เพราะฉะนั้นการที่จะช่วยให้เส้นทางไปสู่เป้าหมายของธุรกิจออนไลน์ ที่มีความชัดเจน จึงต้องพึ่งพาเครื่องมือสำคัญคือ ‘ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ’ นั่นเองค่ะ
โดย แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อยกระดับธุรกิจของคุณในโลกออนไลน์ การวางแผนให้มีแผนการที่ชัดเจน และเดินไปได้อย่างมั่นใจได้มากขึ้น และในบทความนี้จะมาช่วยคุณให้รู้จักกับ แผนการตลาดออนไลน์ พร้อมทั้งแนะนำขั้นตอนการวางแผน ที่ถูกต้อง ที่คุณพลาดไม่ได้เลยค่ะ
แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) หมายถึง กลยุทธ์ หรือแผนที่ทุกธุรกิจคิดค้น และเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นการกำหนดเป้าหมาย เพื่อลงมือสร้างผลงาน และสรุปผลลัพธ์ที่ได้จากการทำการตลาดภายใน ช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้บนช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ หรือเราสามารถเรียกอีกอย่างว่า “แผนการทำ Digital Marketing” ก็ได้เช่นกันค่ะ
หรือจะให้อธิบายอย่างง่าย ๆ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) นั่นคือ แผนที่ถูกเขียนขึ้นมา เพื่อให้ทั้งทีมงาน ได้มองเห็นเป้าหมาย รู้ว่าควรทำอะไรตอนไหน ทำอย่างไร และเอาไว้ดูว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้น สามารถประสบความสำเร็จได้มากน้อยขนาดไหนนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็น Roadmap ที่สามารถทำให้ธุรกิจของคุณ ก้าวสู่เป้าหมายได้อย่างถึงเส้นชัยเลยทีเดียว
จากที่ได้กล่าวมา คงสงสัยใช่ไหมคะว่า “แผนการตลาด” แบบปกติกับ “แผนการตลาดออนไลน์” โดยที่ 2 คำนี้มันแตกต่างกันที่ตรงไหน? ไปดูกันเลยค่ะ
สำหรับ ต่างกันที่ช่องทางการทำการตลาด ( Marketing Channels ) เพราะว่าแผนการตลาดโดยทั่วไป หมายถึง กลยุทธ์การทำการตลาดทั้งแบบ Offline อาทิ การจัดงาน Event หรือ การทำ Billboard เป็นต้น และในแบบ Online ก็ทำควบคู่ไปด้วยกัน แต่แผนการตลาดออนไลน์ นั้นจะเน้นวางกลยุทธ์ เพื่อทำการทำการตลาดบนช่องทาง Online ทั้งหมดนั่นเองค่ะ ก็คือทั้ง 2 แบบนั้นมีจุดประสงค์เดียวกัน แต่มีจุดโฟกัสต่างกันแค่นั้นเอง
หากคุณเคยทำธุรกิจมานาน ๆ แล้ว ก็อาจจะรู้กันดีอยู่แล้ว กว่าการมีอยู่ของแผนการตลาด มันมีข้อดีอย่างไรบ้าง แต่สำหรับคนที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจ หรือว่าคนที่ไม่เคยผ่านการทำธุรกิจมาก่อนเลย คุณอาจจะยังมองไม่เห็นว่าสิ่งนี้สำคัญ หรือว่ามีข้อดีต่อธุรกิจอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
- ช่วยให้ธุรกิจรู้จักตัวตนของตัวเองมากขึ้น
- ช่วยให้ธุรกิจรู้จักลูกค้าได้ดีกว่าเดิม
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของทีมงานได้มากขึ้น
- ช่วยให้การทำการตัดสินใจที่เฉียบคมมาก มองขาดขึ้น
- ช่วยติดตามผลลัพธ์ได้อย่างดีเยี่ยม
เริ่มที่ข้อแรกเลยนั่นคือ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจรู้จักตัวเองได้มากขึ้น ผ่านการตกตะกอนด้วย Business Canvas และ SWOT Analysis นั่นเองค่ะ
สาเหตุสำคัญที่ทุก ๆ ธุรกิจต้องรู้จักตัวเองก่อนเลย ก็เพราะว่า การทำธุรกิจจำเป็นที่ต้องใช้โอกาสจากข้อดี ที่ตัวของคุณเองมีออกมาใช้ เพื่อสร้างการดึงดูดลูกค้า และสร้างยอดขายเหนือชั้นกว่าคู่แข่งนั่นเอง เพราะฉะนั้นการที่ทำ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) จะสามารถช่วยให้คุณกลับมานั่ง ทบทวนว่า ธุรกิจที่คุณกำลังจะทำ คืออะไร ขายอะไร มีจุดมั่งหมายอย่างไร ณุรกิจของคุณอยู่ในกลุ่มใด การวิเคราะห์ จุดแข็ง-จุดอ่อนอะไรบ้าง เพื่อนำสิ่งเหล่านี้ นำมาจัดวางกลยุทธ์การสื่อสารที่ดี เข้าใจง่าย เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของคุณในตลาด ได้ตรงจุดมุ่งหมายมากขึ้น
ดังจะเห็นได้ว่า แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) สามารถช่วยให้ธุรกิจรู้จักลูกค้าดีกว่าเดิม รองลงมาจากการรู้จักตัวเองแล้วนั้น การทำแผนการตลาดออนไลน์ ก็จะช่วยให้คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมาย หรือลูกค้าของคุณมากขึ้นอีกด้วย โดยนี่แหละ ข้อนี้ถือว่าสำคัญอย่างมาก เพราะว่าถ้าหากธุรกิจไม่มีกลุ่มเป้าหมาย แล้วคุณไม่รู้จะขายให้ใคร ก็เลยไม่รู้ว่าจะทำอะไรนั่นเองค่ะ โดยที่ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ยังช่วยให้คุณกลับมาพิจารณาว่าใครกันแน่คือ กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) ที่แท้จริง ที่ผ่านการทำ Persona เพื่อให้ธุรกิจสามารถออกแบบวิธีการสื่อสาร เลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสม และวางกลยุทธ์ในการเข้าถึงคนเหล่านี้ได้ หากเรายิ่งรู้จักกลุ่มเป้าหมายดีมากเท่าไหร่ แนวทางการเลือกสื่อสารของธุรกิจ ก็จะชัดเจนยิ่งขึ้นเลยแหละค่ะ
นั่นเพราะแผนการตลาดออนไลน์ เป็นการตั้งเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ทางการตลาดขึ้นมา เพื่อวางแผนการลงมือทำให้พิชิตเป้าหมายนี้ สิ่งสำคัญในการสร้างแผนการตลาดขึ้นมา ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของทีมให้ไปในทิศทางเดียวกัน และยังเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เห็นเป้าหมายได้อย่างชัดเจน และการจะเข้าไปถึงเป้าหมาย จึงต้องลงมือสร้างผลงานอะไรออกมาบ้าง ตามหน้าที่ ความรับผิดชอบของตัวเอง และทำหน้าที่ออกมาได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ
หากลังเลว่าขั้นตอนต่อไป ควรจะต้องลงมือทำอะไรดี หรือธุรกิจควรเดินไปทางไหนดีอาจไม่ดีต่อการทำธุรกิจ โดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ ที่ทุก ๆ อย่างเดินไปอย่างรวดเร็วมาก ทำให้การสร้างแผนการตลาดออนไลน์ นั้นสามารถช่วยให้เจ้าของธุรกิจ หรือทีมสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และเด็ดขาดมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการตัดสินใจพลาด เราจะไม่ความลังเล เพราะว่าแผนการตลาดออนไลน์ที่ทำไว้ได้กำหนดไว้แล้วว่า เราควรอะไรก่อน และหลัง ละใช้ระยะเวลาในการสร้างผลงานเหล่านั้นนานแค่ไหน ถือเป็นประโยชน์ที่ไม่ต้องเสียเวลาตัดสินใจนาน และสามารถลงมือทำงานได้ทันทีตาม Time Frame ที่กำหนดเอาไว้ด้วยค่ะ
ข้อดีอีกอย่างเลย ของการทำแผนการตลาดออนไลน์ นั่นคือทุก ๆ ผลงานที่ลงมือทำลงไปนั้นสามารถติดตามผลลัพธ์ได้ อีกทั้งการวางแผนการตลาดออนไลน์ ต่างจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย และเพื่อให้ธุรกิจรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นได้ผล หรือไม่ได้ผลจำเป็นต้องวัดผลว่าพิชิตเป้าหมายหรือไม่ โดยวิธีการวัดผลนั้นก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ ทำให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ได้ว่า อะไรดี และไม่ดี และช่วยประหยัดแรงในการหลีกเลี่ยงสร้างผลงาน ที่อาจล้มเหลวในครั้งต่อ ๆ ไปนั่นเอง
โดยที่ธุรกิจต่างสามารถเลือกใช้เครื่องมือมาช่วยสร้างสรรค์ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือ Spreadsheet ชื่อดังอย่าง Excel และ Google Sheet ที่สามารถปรับแต่งข้อมูลได้อย่างอิสระ หรือในทางธุรกิจที่ไม่ถนัดการใช้งาน Spredsheet นั้นก็มีตัวช่วยที่เรียกว่า Marketing Plan Template ที่เปิดให้ดาวน์โหลด หรือล็อคอินไว้ใช้งานมากมาย ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น HubSpot, Mayple, Instagantt เป็นต้นค่ะ
หากคุณพร้อมแล้ว ที่จะเริ่มต้นทำ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ก็ต้องยิ่งรู้ให้ลึกมากขึ้นค่ะ จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้มีสูตรตายตัวอะไรมากมาย แต่หากวิเคราะห์ให้เป็นละก็ ตอบโจทย์แน่นอน
ก่อนที่คุณจะลงมือสร้างแผนทำคอนเทนต์ เพื่อออกไปตีตลาด สิ่งแรกที่ทุกธุรกิจต้องรู้ และเข้าใจอย่างละเอียดมากมาย กว่าเรื่องไหนเลยก็คือ การรู้จักแบรนด์ของตัวเอง ว่าแบรนด์ของคุณขายอะไร มีภาพรวมของธุรกิจอย่างไร และขั้นตอนถัดไป นั่นคือการนำความเข้าใจมาสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจ และสุดท้ายถึงเริ่มทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง โดยที่เครื่องมือที่มันจะมาช่วยคุณรู้จักตัวเอง และกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นคือ Business Model Canvas, Corporate Identity (CI), และ Customer Persona นั่นเองค่ะ
เครื่องมือตัวแรกคือ Business Model Canvas โดยเป็นเครื่องมือที่ประกอบไปด้วยปปัจจัย 9 อย่างที่จำเป็นต่อธุรกิจ อันได้แก่
- Key Partners หรือว่าพันธมิตรทางธุรกิจ
- Key Activities หรือว่ากิจกรรมทางธุรกิจ
- Key Resources หรือว่าทรัพยากรหลักที่ธุรกิจจำเป็น
- Value Propositions หรือว่าจุดขายของธุรกิจ
- Customer Relationship หรือว่าความสัมพันธ์กับผู้บริโภค
- Customer Segment หรือว่ากลุ่มผู้บริโภคของธุรกิจ
- Channels หรือว่าช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภค
- Cost Structure หรือว่าต้นทุนทั้งหมดของธุรกิจ
- Revenue Streams หรือรายได้ของธุรกิจ
โดยต่อไปคือเครื่องมือที่มีชื่อเรียกว่า Corporate Identity หรือ CI ที่ทำหน้าที่เป็น ‘ภาพจำของแบรนด์’ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพราะว่าสิ่งนี้คือการผสมผสานระหว่าง Branding และ Design เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ เวลาคุณเห็นสัญลักษณ์ตัว A สีเหลือง แบรนด์แรกที่เข้ามาในหัวคือ Adidas ใช่ไหมคะ? ซึ่งนั่นคืออีกหนึ่งวิธีการสร้างตัวตนให้แบรนด์ของธุรกิจ เพื่อให้เป็นที่จดจำในท้องตลาดนั่นเอง
ขั้นตอนต่อไปคือการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจของตัวเอง เพราะการที่รู้ว่าเรามีดีอะไร และขาดในเรื่องอะไร มันนับว่าเป็นแต้มต่อในการทำธุรกิจ นับว่าเป็นการมองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจของคุณ โดยเครื่องมือที่จะมาช่วยคุณวิเคราะห์ SWOT หรือ จุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจ หรือที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยคุณมองเห็นปัจจัยต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นทั้งภายใน และภายนอกธุรกิจได้ ซึ่งประกอบไปด้วย
- Strength คือ จุดแข็งของธุรกิจ
- Weakness คือ จุดอ่อนของธุรกิจ
- Opportunity คือ โอกาสที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ
- Threat คือ ความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ
เมื่อคุณกำหนดได้ และรู้จุดยืนของตัวเองแล้วว่าสร้างธุรกิจอะไร? และทำออกมาเพื่อขายให้ใคร ขั้นตอนต่อไปก่อนที่เราจะเริ่มต้นทำแผนการตลาดออนไลน์ ก็คือ การกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ เพื่อให้ทีมงานของเรา สามารถสร้างแผนที่สอดคล้องกับเป้าหมายได้นั่นเองค่ะ
เครื่องมือที่หลาย ๆ ธุรกิจมักนำมาใช้ เพื่อการกำหนดเป้าหมายคือ SMART Goal หรือที่เรียกว่า เป้าหมายที่ประกอบไปด้วยปัจจัย 4 อย่างได้แก่
- Specific เป้าหมายต้องเฉพาะเจาะจง
- Measurable เป้าหมายที่ต้องวัดผลได้
- Attainable เป้าหมายต้องอยู่บนความเป็นจริง และมันสามารถจับต้องได้
- Relevant เป้าหมายต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่คุณกำลังทำ
- Time Bound เป้าหมายต้องมีขอบเขต กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน
ในขั้นตอนนี้ก็คือ การลงมือวางแผน แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ของคุณเองได้เลย โดยตั้งเป้าหมายทางธุรกิจไว้ เป็นโจทย์ที่ต้องทำให้ได้ และวางแผน การสร้างคอนเทนต์ออกมาให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของคุณได้เลย แต่ว่าถ้าหากคุณไม่รู้ว่าควรเริ่มวางแผนการผลิตคอนเทนต์อย่างไร เพื่อให้ตอบโจทย์ และดึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้น เพื่อให้พวกเขามาเป็นลูกค้าจริงๆ ในอนาคต เราขอแนะนำให้รู้จักกับ Framework ที่เรียกว่า Marketing Funnel หรือหากจะเรียกว่า Sales Funnel ก็ไม่ว่ากัน
Marketing Funnel หรือที่เรียกว่า Sale Funnel เป็นระบบการจัดการการขาย หรือการทำการตลาดตามช่วงเวลา ของกลุ่มเป้าหมาย โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง อันได้แก่
- ช่วงตามหากลุ่มลูกค้าที่มุ่งหวัง หรือว่า Lead ( Awareness Stage )
- ช่วง Lead กำลังลังเล หรือช่วงกำลังตัดสินใจ ( Consideration Stage )
- ช่วงที่ Lead ได้เปลี่ยนผันมาเป็นลูกค้าอย่างแท้จริง ( Conversion Stage )
แต่ว่าก็ไม่ได้ยากเกินไปค่ะ เพราะว่าก็มีตัวช่วยอีกเช่นเดียวกัน โดยที่เจ้าเครื่องมือนี้จะเรียกว่า ‘Search Listening Tools’ และ Social Listening Tools นั่นเองค่ะ โดยที่ทั้ง 2 นั้นมีหน้าที่เหมือนกันคือ ทำการดักฟัง Keyword ที่ผู้คนบนโลกออนไลน์ที่เคยค้นหา หรือให้คนสนใจ อาทิ Google Trend, KWFinder, DOMและอื่นๆ อีกมากมาย โดยที่ในแต่ละช่วงจะมีวิธีการเลือกทำคอนเทนต์ และวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลา แค่นี้เองค่ะคุณก็สามารถวางแผน การทำ แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) ของตัวเองได้แล้ว โดยคำนึงจาก คีย์เวิร์ด ( Keyword ) ที่ผู้คนกำลังตามหา และการทำ Marketing Funnel ในแต่ละช่วงด้วยค่ะ
เมื่อทุกผลงานที่คุณได้ทำ ถูกผยแพร่ออกสู่สายตาของกลุ่มเป้าหมายแล้ว ก็ถึงคิวของขั้นตอนสุดท้าย ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าสิ่งที่คุณและทีมงาน ได้ลงแรงไปนั้นคุ้มกับที่ทำไปหรือไม่ และนั่นคือขั้นตอนของการวิเคราะห์ผลลัพธ์ หรือประสิทธิภาพของคอนเทนต์ ( Content ) ที่คุณได้ทำลงไป โดยที่การวัดผลลัพธ์ว่า แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) นั้นสำเร็จหรือไม่ ต้องดูว่า SMART Goal ที่ตั้งเอาไว้สำเร็จไหม คุณจะสามารถพิชิตเป้าหมายเหล่านั้น ๆ ได้ในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งการทำการตลาดแต่ละประเภท มันก็จะมีตัวชี้วัดที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายในตอนแรกอีกด้วย และตัวชี้วัดนี้เอง ที่มันจะบอกเองว่าจุดไหนของแผนการตลาดที่คุณและทีมทำได้ดี ทำพลาดไปตรงไหน และควรนำสิ่งไหนไปต่อยอดได้อีกมากมาย ในการวางแผนการตลาดออนไลน์ครั้งใหม่ในอนาคตได้อีกด้วยค่ะ
แผนการตลาดออนไลน์ ( Online Marketing Plan ) นั้นก็ไม่มีวิธีที่ตายแบบจริง ๆ จัง ๆ ตัวว่าควรทำแบบไหน มีขั้นตอนอะไรบ้าง แต่ว่าหัวใจหลักสำคัญ ของการวางแผนการตลาดออนไลน์ คือจำเป็นต้องรู้จักธุรกิจ แบรนด์ รู้จักจุดแข็ง จุดอ่อน รู้จักลูกค้าเพื่อนำข้อมูลออกไปต่อยอด กับการกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ และจัดการวางแผนวิธีการสื่อสาร สร้างความเป็นแบรนด์ สินค้าและบริการของคุณออกไป เพื่อให้ถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ บนช่องทางที่ใช่ และในช่วงเวลาที่ใช่ เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักคุณได้อย่างตรงจุด และนอกจากนี้ยังมีโอกาสต่อยอดในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้อีกด้วยค่ะ
ปายเป็นนักเขียนและบล็อกเกอร์ที่ชื่นชอบในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ชอบการออกเดินทางและชอบการพบเจอผู้คนใหม่ๆ
หลงใหลในกาแฟ อาหาร งานเขียนต่างๆ และการเขียน SEO และโซเชียลมีเดีย
เพื่อแบ่งปันความรู้และเชื่อมโยงให้ผู้อ่านให้เข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นได้อย่างแท้จริง
โดนหวังว่าในทุกบทความที่ได้เขียนขึ้นนั้น จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคนค่ะ