Backlink คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อ การทำ SEO

Backlink คืออะไร

ถ้าจะให้พูดกัน ในแบบง่าย ๆ Backlink ก็คือ การให้เครดิต นั่นเอง ซึ่งจะคล้าย ๆ กับว่า เหมือนมีคนมา โหวตให้เว็บไซต์ ของเรา แต่ถ้าหาก จะเอาแบบหลักการ Backlink คือ ลิงค์จากเว็บอื่น ๆ ที่ชี้กลับมา ที่เว็บไซต์ ของเรา โดยจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ เราเขียนบทความ หรือ คอนเทนต์ ที่ดีมาก ๆ  จนหลาย ๆ คน ต้องให้เครดิต หรือว่า แหล่งอ้างอิง กลับมาให้เรา นั่นเอง

Backlink มีความสำคัญอย่างไร ?

ซึ่งการทำ Backlink ก็จะเข้ามาช่วย ในเรื่องดังต่อไปนี้

Rankking

สำหรับการทำ Backlink จะมีผลโดยตรง ในเรื่องของ การจัดอันดับ 100% เพราะว่า Google ที่มองว่า การที่เราได้ Backlink หรือ แหล่งอ้างอิง จากเว็บไซต์ ที่ใหญ่ ๆ หรือที่เป็นเว็บ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจของเรา ก็จะช่วยทำให้เรานั่น มีความน่าเชื่อถือ ที่มากยิ่งขึ้น แต่การที่เราจะทำ Backlink ให้ได้ผลดี เราก็ต้องดูสภาพ โดยรวมของ เนื้อหาบทความ ของเรากันด้วย เพราะไม่งั้น ต่อให้ Backlink ดีขนาดไหน ก็สู้ คอนเทนต์ ที่มีประโยชน์ไม่ได้

รูปแบบของการทำ Backlink

การทำ Backlink ที่ได้รับความนิยม มากที่สุด และยังได้รับความนิยม ถึงในปัจจุบัน

1. Naked Link Anchors > ในแบบ URL

https://www.edenagencys.com/

2. Branded Anchors > การใส่ Brand

edenagencys

3. Exact Match Anchors > การใส่คีย์ ให้ตรงตัว

Backlink คืออะไร

4. LSI Anchors =

Backlink SEO คือ

5. Image Anchors =

เป็นการให้นึกถึงแบนเนอร์

Backlink ที่ดี เป็นอย่างไร

ซึ่งกฎของการทำ Backlink นั่นก็ง่าย ๆ เลย เพราะว่า Backlink ที่ดี จะต้องมาจาก เว็บไซต์ ( Website ) ที่มี ความเกี่ยวข้องกับเรา หรือว่าเป็น เว็บไซต์ที่มีค่า คะแนนสูง ๆ ที่รวมไปถึง เว็บไซต์ที่ชี้มา จะต้องมี อันดับบน Google อีกด้วย โดยส่วนมาก คนที่ทำ SEO ก็จะนิยม วัดค่าพวกนี้ โดยผ่าน SEO Tools ต่าง ๆ ซึ่งก็คล้าย ๆ กันหมด โดยจะเปลี่ยนแค่ ตัวแปรเล็กน้อย ซึ่งสมมติว่า คุณใช้ตัวแปร ”UR DR และอีกคน ก็จะใช้ TF CF เป็นต้น ซึ่งจุดประสงค์ ก็จะคล้าย ๆ กัน ก็คือ ดูค่าคะแนนโดยรวม ของเว็บไซต์ แต่ก็จะ ไม่ต่างกันมาก ซึ่งอันนี้จะเพียง ตัวอย่างของ Tools อย่างเดียว

Website คุณภาพ ควรจะมีลักษณะอย่างไร

ซึ่งการที่เรา จะไปทำ Backlink กับใครสักคนหนึ่ง เราก็จะต้องดู องค์ประกอบโดยรวม ของเว็บไซต์นั้น ๆ กันด้วย ถ้าหากว่า เว็บไซต์ของเขา มีโครงสร้างที่ดี และมี ความน่าเชื่อถือ ก็จะทำให้ Backlink ชี้มาหาเรา ที่มีความน่าเชื่อถือ ที่สูงกันไปด้วย

เว็บไซต์ที่ดี จะมีหลากหลายองค์ประกอบ

- การวางโครงสร้างที่ดี ซึ่งมีการวางโครงสร้าง Web Structure ที่ดี ที่เหมาะแก่ การไต่ของ Google Bot

- มีการวาง Sitemap

- การออกแบบ UX & UI ให้ใช้งานง่าย ๆ และแสดงผลที่เป็น Responsive รวมไปถึงความเร็ว ในด้านการใช้งาน

- การมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และอัปเดทข้อมูลอย่าง เสมอต้นเสมอปลาย

- เว็บไซต์จะต้องมี การทำ SEO อย่างถูกต้อง และมี Domain Authority ที่อยู่ในระดับที่ดี โดยไม่อัด Backlink ที่มากเกินไป

ประเภทของ Backlinks

1. Natural-Editorial

การเป็น Backlink ที่ทำได้ด้วยวิธีธรรมชาติ นั่นถือว่าเป็น Backlink ที่ดีมากแต่ก็ได้มายากมาก ๆ แต่ถ้าหากเราหมั่นพัฒนาคอนเทนต์ ให้มีประโยชน์กับผู้ใช้งานบ่อย ๆ เราเชื่อว่าวันนึงก็จะเป็นของเรา อย่างแน่นอน

2. Manual Link Building

ซึ่งเป็น Backlink ที่เรานั่นตั้งใจทำ หรือมีเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ของเรา ซึ่งวิธีนี้จะซื้อ หรืออาจหาเอาแบบฟรี ๆ ก็ได้ โดยวิธีนี้เรียกกันว่า  Outreach Content ก็คือ เป็นการเอาเนื้อหาบทความ ของเราไปกระจายตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ

3. Non-Editorial

ซึ่งเป็นการทำ Backlink ที่ง่ายที่สุด อย่างพวก Spam Backlinks ในที่ต่าง ๆ แต่ถ้าหากถามว่าได้ผลไหม ก็ได้อยู่ จึงถือว่าเป็น Backlink ที่มีผล SEO น้อยมาก ๆ แต่ถ้าอยากจะให้ได้ผลมาก ก็ต้องใช้จำนวนที่มาก เช่นเดียวกัน

4. Editorial Link

การเป็นลิงก์ที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยเจ้าของเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อจะเสริมสร้างคุณภาพ เนื้อหาเว็บไซต์ของเรา ที่เกิดจากการเขียนบทความ หรือเนื้อหาที่มีความสัมพันธ์ กับเนื้อหาของเว็บไซต์ และควรอยู่ในเนื้อหา ที่อยู่บนเว็บไซต์ ของผู้อื่น

5. Self-created Link

การเป็นลิงก์ที่สร้างขึ้นโดย เจ้าของเว็บไซต์ ซึ่งจะใช้เทคนิคในการ สร้างลิงก์ที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่น การสร้างลิงก์เพื่อจะ เพิ่มจำนวน Backlink โดยเป็นการใช้ เครื่องมืออัตโนมัติ หรือว่า ซื้อลิงก์

6. Image Link

การเป็นลิงก์ ที่ตั้งอยู่บนภาพบนเว็บไซต์ของผู้อื่น ซึ่งเราจะสามารถ คลิกผ่านรูปภาพ และนำทราฟฟิค เพื่อเข้ามายัง ภายในเว็บไซต์

รูปแบบของการทำ Backlink ที่ถูกนำมาใช้มากที่สุด

1. Domain Link คือ

การสร้างลิงค์ด้วย Domain Name ของเว็บไซต์ หรือว่า URL ของเว็บไซต์ Backlink ที่ถือว่าเป็น การทำลิงก์แบบธรรมชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ มีคนเอาข้อมูลเว็บไซต์ของเราไปอ้างอิง

2. Anchor Text Link คือ

การสร้างลิงค์ด้วย คีย์เวิร์ด หรือ ข้อความ ที่เกี่ยวข้องกัน กับเว็บไซต์ หรือ คีย์เวิร์ด ที่ต้องการทำอันดับ

3. Image Link คือ

ซึ่งจะเป็นการทำ Backlink ในแบบรูปภาพ พูดง่าย ๆ ก็คือ การติดแบนเนอร์ ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ วิธีการทำ Backlink ควรจะมีความเหมาะสม ประมาณ 5 – 15 % ของลิงก์ในทั้งหมด เพราะถ้ามากเกิน จะไม่ดีต่อเว็บไซต์ของเรา

Backlink มี 2 ประเภท

1. DoFollow เป็นแบบการส่งคะแนน ถ้าหากเราได้ Backlink ประเภทนี้ ก็จะมีผลต่อการทำอันดับในทันที นั่นก็จะทำให้เว็บไซต์ของเรา มีความน่าเชื่อถือ ต่อ Google เพราะเมื่อมีความน่าเชื่อถือ การทำอันดับ ก็จะง่ายขึ้นอย่างมาก โพสอะไรก็จะติดอันดับสูง ๆ
2. NoFollow เป็นลิงก์ที่มีการส่งคะแนนน้อยมาก ๆ โดยการทำ Backlink นั่นจะเหมาะกับการ ไปติดแบนเนอร์กับเว็บไซต์ ที่มีจำนวนหน้าเพจ ในแบบเยอะ ๆ Google ก็จะได้ไม่มองเป็น Over Backlink นั่นเอง

ขั้นตอนการทำ Backlink มีวิธีไหนบ้าง

1. การไปโพสตามเว็บบอร์ด เพราะในปัจจุบัน ขั้นตอนนี้ยังคงใช้อยู่ แต่จะต้องทำใน จำนวนที่มาก ๆ เพราะถ้าเลิกทำ หรือหยุดทำ อันดับก็จะตกในทันที
2. การไปสมัครตาม Blog ฟรี ในปัจจุบันขั้นตอนนี้ ได้ผลดีมาก ๆ ถือว่ากำลังเป็นที่นิยม อย่างมากสำหรับ การทำ SEO
3. การใช้เงินแก้ปัญหา ซึ่งอันนี้จะเหมาะสำหรับ ผู้ที่มีเงินที่ใช้กันมานาน และยังเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด เพราะว่า เราสามารถเลือก เว็บไซต์ที่จะให้เครดิต หรือ Backlink ของเราได้

วิธีการเช็ค Backlink ของคู่แข่ง

เราสามารถทำการเช็คได้ จาก Tools SEO ที่กำลังได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ดังต่อไปนี้

1. Ahrefs
2. Ubersuggest
3. Majestic

วิธีการเลือก Backlink ที่ดี

1. การให้ดูจากค่าของ Domain rating
2. การให้ดูว่า Backlink กับ Referring Domain นั่นเหมาะสมกันหรือไม่ ถ้าหาก Referring Domain มีน้อย แต่มี Backlink เป็นล้าน แบบนี้ก็ไม่ไหว เพราะว่าแสดงถึง ความไม่เป็นธรรมชาติ นั่นเอง

สรุปบทความ

เป็นยังไงกันบ้าง สำหรับเรื่องน่ารู้ในวันนี้ หลาย ๆ คนก็ได้รู้กันแล้วว่า Backlink คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อ การทำ SEO หรือเลือกแบบไหนถึงจะดี หรือเพื่อน ๆ คนไหน ที่ยังมีข้อสงสัย ก็สามารถทักมาถามเรา https://edenagencys.com/  ได้ทางเว็บไซต์ ได้เลย