สำหรับบทความนี้ คนทำงานสายออนไลน์อย่างเรา แวะมาดู มาทำความเข้าใจ On Page คืออะไร ทำอย่างไรให้ถูกต้อง ตามหลักของ SEO โดยถือเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
หากจะให้เรียกแบบตรงตามตัว ของ On Page นั้นแปลว่าทุก ๆ สิ่งในการจัดการ บนหน้าหลักของเว็บไซต์ ที่คุณสามารถมองเห็นได้ อย่างเช่น ในการกำหนด Keywords ที่เรานำมาใช้ เพื่อการปรับแต่ง ให้เกิดความเหมาะสม กับ Search Algorithm และมันจะส่งผลดี ต่อหน้าเว็บไซต์ของคุณ และผู้ใช้งาน หรือแม้กระทั่งผู้คนที่ได้ ค้นหา คำ หรือ Keywords นั้น ๆ นั่นเอง โดยที่นำไป Optimize ได้ ทั้งในส่วน Title Tags, Content, Internal Links หรือแม้แต่การตั้ง URL ของเว็บไซต์เองด้วยค่ะ
โดยที่การทำ On Page ให้ถูกหลักการ ของการทำ SEO จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ ของธุรกิจ แบรนด์ หรือธุรกิจของคุณ ให้ติดอันดับได้เร็วมากขึ้น บน Search Engine อย่าง Google นั่นเอง โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือเสียเงิน ในการทำโฆษณาอีกด้วยนะคะ
มันจะดีไหม เสียเวลาหรือเปล่า แล้วทำไมเราต้องปรับปรุง แก้ไขการทำ On Page SEO ด้วยล่ะ? ไม่ทำได้ไหม? จะเป็นอะไรหรือเปล่า แล้วการทำ On Page SEO มันจำเป็นมากแค่ไหน? วันนี้เราจะไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ รอบรังว่าคุณจะได้คำตอบอย่างแน่นอนค่ะ
โดยการทำ On Page SEO นั้นสามารถช่วยทำให้ Search Engine เข้าใจ และช่วยทำให้คุณได้รู้จักเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นอีกด้วย โดยเราจะมาทำความเข้าใจ ถึงหลักในการทำงานของ Search Engine อย่างเช่น Google กันดีกว่าค่ะ ว่ามีระบบในการทำงานอย่างไรบ้าง
- Ranking นั้นเป็นขั้นตอน ในส่วนของการแสดงผลข้อมูล ว่าใครสามารถทำได้ดีมากกว่ากัน โดยหากคุณอยู่อันดับต้น ๆ กลุ่มเป้าหมายก็จะหาคุณเจอก่อน
- Crawling จะเป็นขั้นตอน ที่ Bot ของ Search Engine จะเข้ามาตรวจสอบ เพื่อทำการ Crawling เพื่อช่วยเก็บข้อมูล เนื้อหา ที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ ถ้าหากเนื้อหาที่คุณได้สร้างออกมา มันเกิดความซับซ้อน ยุ่งยากมากเกินไป แล้ว Bot แล้วหาไม่เจอข้อมูล มันก็อาจจะตกหล่น และหน้าเหล่านั้นมัน มันอาจจะไม่ติดอันดับได้ค่ะ
- Indexing จะเป็นขั้นตอนในการเก็บรวบรวมข้อมูล แล้วโดยจะนำไปจัดเข้าไป ในฐานข้อมูล ของ Search Engine รอให้คนค้นหา ถ้าเนื้อหาดี และเนื้อหามันตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการรู้ Search Engine จะสามารถดึงข้อมูลต่าง ๆ ของเว็บไซต์ของคุณ เพื่อขึ้นไปแสดงผลให้อยู่หน้าแรก
โดยที่การทำ On Page SEO มีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ Search Engine อย่างเช่น Google จัดทำกระบวนการเหล่านี้ ได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น นั่นเพราะ Bot ของ Google จะตรวจสอบและรู้ว่า คำ หรือ Keyword ที่นำมาใช้ในหน้าเว็บไซต์ของคุณ นั้นตรงกับ Search Intent หรือไหม และช่วยให้ Bot ของ Google สามารถเข้าใจเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้น และช่วยจัดอันดับได้ไวขึ้น จากระบบการวาง On Page SEO ที่ดีนั่นเองค่ะ
โดยในหัวข้อนี้ ถือเป็นหัวข้อสำคัญ สำหรับวิธีในการปรับปรุง On Page SEO โดยมีหลาย ๆ จุด ที่มันสามารถทำได้ เรามาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามันจะมีวิธีไหนบ้าง?
ในส่วนของ URL บนเว็บไซต์ของคุณ ควรวางแผนโครงสร้าง ของ URL ที่ง่ายต่อใช้งาน ทั้งในฝั่งของ User และทางฝั่งของ Search Engine โดยวิธรการปรับ ได้แก่
- ใช้ คำ หรือ Keyword ที่มันเข้ากับเนื้อหาที่มีความถูกต้อง ตรงประเด็น เข้าใจง่าย
- ไม่ใช้อักขระพิเศษ คำ หรือ Keyword ที่มันไม่จำเป็น
- ควรใช้ https เพื่อความปลอดภัย
หากคุณยังสับสนว่า Meta Title หรือ Title Tag และ Meta Description มันคืออะไร ให้คุณลองเข้าไปหน้า Google แล้ว Search ข้อมูล หรือคำอะไรสักอย่าง เมื่อแสดงผลลัพธ์ขึ้นมา คุณจะเห็นชื่อหัวข้อบนหน้าเว็บไซต์ ที่เป็นตัวหนังสือสีน้ำเงิน ตรงนั้นก็คือ Meta Title และส่วนคำอธิบายด้านล่าง มันคือ Meta Description นั่นเองค่ะ โดยในส่วนนี้ เราเองก็จำเป็นต้องปรับปรุง เขียนใหม่ ให้สวยงาม เพื่อให้ดีต่อการทำ SEO อีกด้วยนะ โดยการทำนั้น ก็มีเทคนิคง่าย ๆ ได้แก่
- เขียนเนื้อหา หรือรายละเอียด อย่าให้ยาวเกินไป ควรเขียนให้ กระชับ เป๊ะ เข้าใจง่าย โดย Meta Title อย่าเขียนยาวเกิน 70 ตัวอักษร ส่วน Meta Description และสำคัญเลย คืออย่าเขียนยาวเกิน 300 ตัวอักษร นั่นเพราะจะโดน Google ตัดตกเรื่องของเนื้อหา และไม่ให้แสดงผลในหน้า SERPs ได้ค่ะ
- ใส่ คำ หรือ Keyword หลักที่ใช้ ให้ใส่ลงไปด้วย แต่อย่าใส่เยอะมากเกินไป ควรเขียนเนื้องหา ให้เป็นธรรมชาติ ไม่งั้นจะจะกลายเป็นสแปมไปเลยค่ะ
- เขียนให้น่าสนใจ ดึงดูดผู้อ่าน แต่ไม่เป็น Click Bait และจำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้อง เกี่ยวกับเนื้อหาในแต่ละหน้าด้วย
- ห้ามใส่ตัวอักษรพิเศษ และ ไม่ใส่ตัวเลขคละกัน อย่างเช่น -, +, &
ใส่วนของ การสร้าง Internal Link ถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่ง ที่มันช่วยให้ Google Bot โดยนำเข้ามาเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ได้ง่าย และทำให้มองเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหาต่าง ๆ ในแต่ละหน้า ให้มันชัดเจนมากขึ้น เพราะฉะนั้น ห้ามลืมใส่ Intetnal Link ลงไปในบทความของคุณ ในแต่ละหน้าด้วยค่ะ โดยวิธีการใส่ มันก็มีหลายแบบ แต่ส่วนที่นิยมใช้กันบ่อยครั้ง และคิดว่าหลาย ๆ คนเอง ก็น่าจะคุ้นหูคุ้นตากัน คือ การใส่แบบ Link Text นั่นเองค่ะ
โดยในการทำ External Link นั่นคือ การทำ Link เพื่อส่งออกไปยังเว็บอื่น ๆ ที่มันนอกเหนือจากเว็บไซต์ ของคุณ ซึ่งเราขอแนะนำให้ทำ External Link ออกไปยังเว็บไซต์หลัก ที่มันมีความน่าเชื่อถือสูงมาก ๆ และเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเราโดยตรง เช่น คุณทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ ก็ต้องทำลิงก์ออกไปหาเว็บไซต์ที่ถือว่ามีความเกี่ยวข้องในธุรกิจเดียวกัน อย่างเช่น เว็บไซต์ขายอาหารเครื่องมือแพทย์เหมือนกัน ประมาณนั้น
หากเว็บไซต์ของคุณมีปัญหาโหลดช้า โหลดยาก บอกเลยว่าคุณต้องไม่ลืม ปรับปรุง Page Speed ของเว็บไซต์ของคุณ ให้มันเร็วขึ้น เพื่อช่วยลดอัตราของการเกิด Bounce Rate หรืออัตราการกดออกจากเว็บไซต์ โดยส่วนใหญ่ มันจะมีสาเหตุต่าง ๆ มาจากการที่เว็บไซต์โหลดช้ามาก ๆ จนทำให้ผู้ใช้งานทั้งหลาย เค้าเกิดความรู้สึกหงุดหงิดนั่นเอง โดยคุณสามารถเช็คเว็บไซต์ของคุณ ว่ามันโหลดเร็วหรือช้าได้ โดยคุณสามารถเข้าไปเช็คได้ที่ Google Pagespeed Insight ค่ะ
จากบทความและข้อมูลข้างต้น เราก็จะเห็นได้เลยค่ะ ว่า On-page Optimization นั้นเป็นการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้มันถูกหลัก SEO และต้องทำให้ถูกใจ Google ด้วย เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณ นั้นถูกจัดอันดับในตำแหน่งดี ๆ และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมยของคุณได้อย่างดีที่สุด และเหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างแน่นอน
ปายเป็นนักเขียนและบล็อกเกอร์ที่ชื่นชอบในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ชอบการออกเดินทางและชอบการพบเจอผู้คนใหม่ๆ
หลงใหลในกาแฟ อาหาร งานเขียนต่างๆ และการเขียน SEO และโซเชียลมีเดีย
เพื่อแบ่งปันความรู้และเชื่อมโยงให้ผู้อ่านให้เข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นได้อย่างแท้จริง
โดนหวังว่าในทุกบทความที่ได้เขียนขึ้นนั้น จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคนค่ะ