แนะนำ 3 เคล็ดลับที่จะช่วยทำให้ โฆษณาบน Google ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
Pai - Oct 18 2023

แนะนำ 3 เคล็ดลับที่จะช่วยทำให้ โฆษณาบน Google ได้ประสิทธิภาพสูงสุด


หากคุณเริ่มต้นการทำธุรกิจ หรือต้องการสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก โดยการทำโฆษณา บนกูเกิ้ล วันนี้เราจึงมา แนะนำ 3 เคล็ดลับที่จะช่วยทำให้ โฆษณาบน Google ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และแนวทางที่ ทำให้ Google Ads นั้นได้ผลสูงที่สุด ไปดูกันเลยค่ะ


แนะนำ 3 เคล็ดลับที่จะช่วยทำให้ โฆษณาบน Google ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

โดยข้อมูลต่าง ๆ ในวันนี้ เราได้สรุป รวบรวมอ้างอิง มาจากบริษัท Google เอง เพื่อช่วยตอบคำถามของได้อย่างตรงจุดที่สุด โดยที่ก่อนอื่นเลย คุณต้องเข้าใจก่อนว่า โฆษณาที่สร้าง บน Google หรือ Google Ads นั้นมี 5 ประเภท ดังนี้

  1. Google Search Ads
  2. Google Display Network (GDN)
  3. Google Shopping Ads
  4. YouTube Ads
  5. App Ads

 

และในวันนี้เราจะไปดูแนวทางต่าง ๆ ในการสร้างโฆษณาเหล่านี้กันค่ะ โดยเริ่มจาก

 

การกำหนด CTA ( call-to-action ) ให้ชัดเจนตามแต่ละแคมเปญ

หากใน CTA บนโฆษณาของคุณ ไม่เคลียร์ อ่านแล้วไม่ชัดเจน คนก็ไม่เข้าใจหรอกว่าคุณกำลังเสนออะไรให้กับเขา แล้วเขาต้องทำอย่างไรกับสิ่งที่คุณนำเสนอนั้น ดังนั้น เราต้องทำให้ CTA ในแคมเปญโฆษณาของคุณนั้นมีความเกี่ยวข้อง กับสิ่งต่าง ๆ หรือข้อมูลที่ Audience ของคุณสนใจ และพวกเขากำลังค้นหา เพื่อช่วยดึงดูด เพื่อให้พวเขาให้คลิกโฆษณาของคุณให้ได้

 

ขอยกตัวอย่าง กรณีของ CTA ที่ดี และมีความชัดเจน นั่นคือ การทดลองใช้ฟรี ( Try It Free ), ดูข้อมูลเพิ่มเติม ( Learn More ) เป็นต้น นั่นเพราะ นอกจาก CTA จะเป็น Message ที่คุณเขียนใน Headline และ Description เพื่อให้คนคลิก Ads ของคุณแล้ว คุณก็ยังต้องคำนึงถึงเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ headline และ description ด้วยค่ะ

- การแจ้งข้อมูลสำคัญของผลิตภัณฑ์ (Product Information Highlight) ถือเป็นการระบุข้อมูลสั้น ๆ ที่กล่าวถึงความสำคัญของสินค้า และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ไม่ว่าจะเป็น การขนส่ง การติดตามสินค้า เป็นต้น

- ข้อเสนอ ( Offers ) โดยการจัดโปรโมชั่น และเขียนใน Headline จะดีกว่า การไม่เขียนโปรโมชั่นกว่า 40%

- การทำให้เป็นข้อมูลเป็นส่วนตัว ( Personalization ) ทาง Google เขาจะแนะนำให้คุณใช้ภาษาพูดง่าย ๆ ที่ให้ผู้อ่านได้รู้ว่า คุณกำลังสื่อสารกับพวกเขาโดยตรง และอย่างแท้จริง อาทิ การใช้คำว่า “คุณ” ในข้อความ เพราะว่ามันจะส่งผลให้ดีกว่าข้อความ ที่เขียนเป็น Not-Personalized ค่ะ

1697600070.3jpg

การใส่ Assets หลาย ๆ รูปแบบ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นี่เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่จะสามารถช่วยคุณทำ โฆษณาบน Google เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด นั่นคือ การใส่ Assets ที่มันมีหลาย ๆ รูปแบบ นั่นเพราะ ทาง Google Search เขาจะทำการแสดง Assets ที่เหมาะสม และเฉพาะ กับ ในการใช้คำค้นหาของ Audience โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีในการมองเห็นสำหรับโฆษณาที่คุณได้สร้างลงไป และคุณเองก็ต้องให้ Assets ของคุณ จะต้องความเฉพาะเจาะจง และจะต้องอยู่ในมวดหมู่โฆษณา หรือ Ad Groups ที่มีความเหมาะสม กับแคมเปญที่คุณสร้างด้วย เพื่อให้ระบบสามารถแสดงผลโฆษณาของคุณได้ถูกต้อง ตามคำค้นหาของ Audience นั่นเองค่ะ

 

เรามาดูคำแนะนำจากทาง Google ในการทำ Assets ที่เป็น ข้อความ (Text), รูปภาพ (Image) และวีดีโอ (Video) ให้เกิดประสิทธิภาพ กันดีกว่าค่ะ

 

ข้อความ (Text)

แนะนำให้คุณใส่ Headline และ Description ที่มันไม่ซ้ำกัน แต่มีความหลากหลาย และต้องมีความเกี่ยวข้องกัน เพื่อให้ระบบของ Google เขาสามารถเลือก และแสดงโฆษณาของคุณให้กับคำค้นหา ที่มีความเกี่ยวข้องจาก Audience โดยตรงค่ะ

 

รูปภาพ (Image)

แนะนำให้ใช้รูปภาพ ที่มีความหลากหลาย และสามารถสื่อถึง Audience ของคุณโดยตรง เพื่อช่วยให้ CTA ของคุณ จะได้มีคนคลิกมากขึ้น

 

วีดีโอ (Video)

ในส่วนนี้หากทำการเปรียบเทียบ CTA และ Headline หลาย ๆ ตัว ก่อนจะเลือกลงวีดีโอโฆษณาตัวสุดท้าย เพื่อทำการสร้างวีดีโอโฆษณาที่มันดีที่สุด หรือว่า เพิ่ม Asset ที่เป็น Sitelink เข้าไปใน Video โฆษณาของคุณ เพื่อง่ายต่อการคลิก และความสะดวกในการดูข้อมูลมากยิ่งขึ้น

 

3. รอและให้เวลาโฆษณา ได้ทำการทดสอบ

สำหรับแนวทางนี้ ทาง Google ได้แนะนำให้ คุณทำ นั่นคือ การให้เวลา กับทางระบบ Google Ads ทำการทดสอบ และรายงานให้คุณทราบว่า ประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาของคุณเป็นอย่างไร และเข้าใจว่า Assets ใดบ้าง ที่มันอาจจะมีผลกระทบมากที่สุดต่อลูกค้าของคุณ ด้วยฟีเจอร์ Ad Strength รวมถึง Asset reporting

 

โดยในสำหรับแนวทางนี้ Google พวกเขาก็ยังได้แนะนำให้คุณ ลองใช้ฟิเจอร์ ร่าง ( Draft ) และ การทดลอง ( Experiment ) ในขั้นตอนสร้างแคมเปญโฆษณา เพื่อเป็นการทดสอบ และเปรียบเทียบโฆษณาของคุณ สำหรับข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ผลมากที่สุดค่ะ

1697600070.4jpg

เพราะฉะนั้น เรามาดูประเด็นสำคัญ ที่คุณต้องให้ความสนใจ ดังนี้ค่ะ

- ให้เวลาแคมเปญใหม่ ที่คุณสร้างและเพิ่งลงไปอย่างน้อย ๆ 3 อาทิตย์ เพื่อให้ระบบของ Google ได้ทำการเรียนรู้ว่า Assets ไหนบ้าง ที่มันทำงานได้ดี และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ของผลลัพธ์ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

- คุณต้องค่อย ๆ ทำการอัปเดต Assets เพื่อช่วยลดการผันพวนของการทำงาน

- ก่อนที่คุณจะเอา Assets ไหนออก แนะนำให้มีการเตรียม Assets ใหม่ ที่จะลงมาแทนให้มันเรียบร้อยเสียก่อน

 

ส่วนเคล็ดลับเทคนิค ที่คุณควรระลึกไว้เสมอ ในตอนทำการเปลี่ยนแปลง

  1. คุณจะเป็นต้องพยายามรักษา หมวดหมู่โฆษณา ( Ad Groups ) ภายในหัวข้อ ( Theme ) ที่เคลียร์ มีความชัดเจน ไม่ว่าแต่ละ Assets สร้างขึ้นมาในหลาย ๆ รูปแบบ คุณเองก็ต้องทำให้มันมีความเกี่ยวข้องกัน และ ต้องสนับสนุน CTA ของคุณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ควรหลีกเลี่ยงการใส่ Headlines ที่มันซ้ำซ้อนกัน กับข้อความใน Description รวมถึง การใช้รูป และ Video ที่มันไม่เกี่ยวข้องกับ CTA ของคุณ

 

บทสรุป

เป็นไงบ้าง กับ 3 แนวทางที่ทาง Google เค้าได้แนะนำมา คุณลองนำไปใช้กับโฆษณาแคมเปญ ที่คุณกำลังสร้างอยู่ หรือว่า วางแผน ที่คุณจะทำบนสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของทาง Google ดูค่ะ ว่ามันได้ผลสูงสุดจริงหรือไม่ หากคุณต้องการปรึกษาข้อมูลต่าง ๆ ทางการตลาด ติดต่อสอบถามเราได้ทันทีเลยค่ะ






อ่านบทความเพิ่มเติม
เขียน แคปชั่น Content ยังไง ให้ปัง
การใช้ AI Content ในการสร้างกลยุทธ์ SEO เป็นอย่างไร?
Cinque Terre

Pai

ปายเป็นนักเขียนและบล็อกเกอร์ที่ชื่นชอบในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ชอบการออกเดินทางและชอบการพบเจอผู้คนใหม่ๆ
หลงใหลในกาแฟ อาหาร งานเขียนต่างๆ และการเขียน SEO และโซเชียลมีเดีย
เพื่อแบ่งปันความรู้และเชื่อมโยงให้ผู้อ่านให้เข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นได้อย่างแท้จริง
โดนหวังว่าในทุกบทความที่ได้เขียนขึ้นนั้น จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคนค่ะ

View Profile

ผลงานของเรา

รับข่าวสารเพิ่มเติม

line line